Items
สำคัญซึ่งไม่แพ้ items ตัวอื่นๆ คือ
กันแดดนะคะ เวลาขับรถนานๆ แดดส่องแขน แขนที่มีตกกระอยู่แล้ว สีเข้มขึ้นเลย
ถ้าใบหน้าจะขนาดไหน เมื่อก่อนไม่ชอบครีมที่มีสารกันแดดหรอก
เพราะมันเหนียวเหนอะแหนะ ผลคือ หมองคล้ำ ดำไปเลย กระขึ้นจมูก สีเข้มมาก
เลยหากันแดดดีๆมาใช้ อาจจะเป็นรูปแบบในครีมรองพื้น BB Cream หรือ
CC Cream ก็ได้ค่ะ การเกิดกระ ฝ้าต่างๆ เกิดจาก
เม็ดสีเมลานีนสะสมในผิวหนังมากกว่าปกติ จึงเกิดจุดเล็กๆสีน้ำตาลค่ะ
ดังนั้นเราควรใช้ครีมกันแดดสม่ำเสมอนะคะ ซึ่งควรป้องกันทั้ง UVA และ UVB ค่ะ สำหรับค่า SPF ควรจะอยู่ระหว่างประมาณ
15-30 หรือสูงกว่านั้นได้ยิ่งดีนะคะ
รังสีอัลตราไวโอเลต หรือ รังสียูวี มีอยู่ 3 ชนิด คือ
รังสียูวีซี (UV C) เป็นรังสีที่อันตรายที่สุด
แต่จะไม่ถึงพื้นโลก เนื่องจากจะมีโอโซนกั้นอยู่ โดยรังสีนี้หากถูกผิวหนังจะทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้
และอาจกระทบต่อดวงตา เป็นต้อกระจกได้
รังสียูวีบี (UV B) มาถึงผิวโลก และมีผลต่อผิวไหม้ ผิวเกรียมแดด ผิวอักเสบได้ หรือที่เรียกว่า ซันเบิร์น เป็นตัวหลักที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย แต่ป้องกันได้
โดยการทาครีมกันแดด
รังสียูวีเอ (UV A) จะทะลุเข้าไปภายในผิวหนัง
ทำให้แก่เร็วขึ้น เป็นรังสีกระตุ้นการสร้างเมลานิน ทำให้ผิวหมองคล้ำ หรือคล้ำแดด
ภาพจาก http://www.iweddingskincare.com/
ค่า
SPF (Sun Protective Factor) ในสารกันแดด ที่มีตัวเลขต่อท้าย อาทิ SPF10, SPF15, SPF 60 นั้นสามารถนำมาคำนวณระยะเวลาในการปกป้องผิวจาก UVB โดยนำตัวเลขส่วนท้ายคูณด้วย 30 ผลลัพธ์ที่ได้หมายถึงจำนวนนาทีที่ครีมกัน-
แดดชนิดนั้นจะป้องกันยูวีบีได้ เช่น SPF40 นำ 40x30 เท่ากับ 1,200 นาที หรือ 20 ชั่วโมง
แดดชนิดนั้นจะป้องกันยูวีบีได้ เช่น SPF40 นำ 40x30 เท่ากับ 1,200 นาที หรือ 20 ชั่วโมง
ค่า PA ที่อยู่ในกันแดด คืออะไร?
ค่า PA มีไว้เพื่อกัน UVA ที่ทำให้เกิดริ้วรอย และอันตรายมาก เพราะมันลงไปลึกกว่า UVB ซึ่งค่า PA นี้อ้างอิงมากจากค่า PPD (Persistent Pigment Darkrning) ดังนี้
PA+ จะมีค่า PPD อยู่ที่ 2 ถึงน้อยกว่า 4 (เหมาะกับคนที่อยู่แต่ในอาคาร)
PA++ จะมีค่า PPD อยู่ที่ 4 ถึงน้อยกว่า 8
PA+++ จะมีค่า PPD อยู่ที่ 8 ขึ้นไป (เหมาะกับการอยู่กลางแจ้ง ถูกแดดนานๆ)
CC Control Cream (Tatal Naked Care for Blemished or
Spotted Skin Botanical Therapy)
เหมาะสำหรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ หรือมีจุดด่างดำบนใบหน้า
ตัวนี้เป็นตัวอัพเกรดจาก
BB Cream ที่เป็นหลอดสีแดง รุ่นเก่าจะเป็น 4
in 1 รุ่นใหม่จะเป็น 5 in 1 ที่เพิ่มมาคือ
บำรุงรักษาริ้วรอยบนใบหน้าค่ะ
คุณสมบัติ CC Control Cream Dewins
1.ป้องกันแสงแดด SPF40 PA++
2.ช่วยให้ผิวกระจ่างใส
3.ช่วยลดริ้วรอย
4.สกินแคร์บำรุงผิวหน้า
5.CC Cream มีสารให้เข้ากับสีผิว (รอเวลาsetผิวประมาณ3นาทีนะคะ)
CC Control Cream เป็นทั้งเบส
รองพื้น สารบำรุง สารกันแดด คุณสมบัติที่ขาดไม่ได้คือ เมื่อทาลงบนผิวหน้าแล้ว
จะปรับเข้ากับสีผิวทันที ที่สำคัญคือ ให้ลุคที่ดิวอี้มาก เหมือนสุขภาพผิวหน้าดีตั้งแต่เกิดเลยค่ะ
หมายเหตุ :: BB Cream ขวดสีแดง ทางแบรนด์ Dewins เลิกผลิตแล้วค่ะ เนื่องจาก CC ดีกว่า BB
ความแตกต่างระหว่าง BB Cream และ CC Cream
BB Cream = Basic Skincare + Sun Protecter + Makeup Base +
Foundation]บีบี ครีม = ครีมบำรุง + ครีมกันแดด + เมกอัพเบส +
รองพื้น นั่นเอง
ส่วนคุณสมบัติที่เพิ่มเข้ามาของ CC Cream คือคุณสมบัติของสารควบคุมสีผิวและปรับสภาพผิวให้มีความนวลเนียน กระจ่างใส แลดูเป็นธรรมชาติ กลมกลืนกับสีผิวจริง ไม่ดร๊อป ไม่หมอง สีผิวไม่เปลี่ยนระหว่างวันถ้าคิดตามสูตรง่ายๆ
[CC Cream = Basic Skincare + Sun Protecter + Makeup Base + Foundation + Color Controller]ซีซี ครีม = ครีมบำรุง + ครีมกันแดด + เมกอัพเบส + รองพื้น + สารควบคุมสีผิว
ซึ่ง CC Cream ถือว่าตอบโจทย์ของสาวไทยที่มีหลากหลายเฉดสีผิวได้อย่างชัดเจนเพราะการใช้ BB Cream ที่มีส่วนผสมของขั้นตอนดูแลผิวและปกปิดผิวหลายๆ อย่างที่เราไม่สามารถกำหนดสัดส่วนของแต่ละอย่างได้เองซึ่งสัดส่วนของส่วนผสมที่อาจจะไม่พอดีเป๊ะกับสภาพผิวของสาวไทยบ้านเราจึงเป็นที่มาของปัญหาที่ว่า หลังจากทา BB Cream ไปแล้ว สีผิวเปลี่ยนไป ไม่ใกล้เคียงกับสีผิวจริงและบางคนเกิดอาการผิวหมองคล้ำระหว่างวัน หรือที่หลายๆ คนเรียกกันว่า หน้าสีเทา
ผู้ที่เหมาะสำหรับการเลือกใช้ CC Cream ได้แก่
1. ผู้ที่ต้องการดูแลผิวในวันที่ต้องเร่งรีบ ทั้งให้ความชุ่มชื้น และการปกป้องผิวจากแสงแดดเพราะมีส่วนผสมของครีมบำรุงผิวและครีมกันแดด ซึ่งบางชนิดเพิ่มการดูแลผิวแบบพิเศษลงไปด้วยเช่น การลดการอักเสบของสิว การทำให้ผิวสว่างขึ้น การลดริ้วรอยจางๆ
2. ผู้ที่ต้องการปกปิดจุดบกพร่องต่างๆ บนผิว ในระดับบางเบาทั้ง รอยแผลเป็นจากสิว รอยกระ รอยฝ้า และรอยด่างดำ ดูจางลงเพราะมีส่วนผสมของครีมรองพื้นที่ช่วยในเรื่องการปกปิดผิวและจุดบกพร่องของผิว
3. ผู้ที่ต้องการปรับสีผิวให้ใบหน้ากระจ่างใส เพราะมีส่วนผสมของเมกอัพเบส ที่มักจะช่วยปรับสีผิวให้สว่างขึ้น
4. ผู้ที่ต้องการให้เมกอัพติดทนได้ดีขึ้น (ในกรณีที่ไม่ใช้เมกอัพเบส) เพราะมีส่วนผสมของเมกอัพเบสซึ่งบางประเภทก็ส่วนผสมที่ช่วยควบคุมความมันให้กับผิวหน้าได้ด้วย
5. ผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้าให้ดูนวลเนียน กระจ่างใส และดูเป็นธรรมชาติ กลมกลืนกับสีผิวจริง
ส่วนคุณสมบัติที่เพิ่มเข้ามาของ CC Cream คือคุณสมบัติของสารควบคุมสีผิวและปรับสภาพผิวให้มีความนวลเนียน กระจ่างใส แลดูเป็นธรรมชาติ กลมกลืนกับสีผิวจริง ไม่ดร๊อป ไม่หมอง สีผิวไม่เปลี่ยนระหว่างวันถ้าคิดตามสูตรง่ายๆ
[CC Cream = Basic Skincare + Sun Protecter + Makeup Base + Foundation + Color Controller]ซีซี ครีม = ครีมบำรุง + ครีมกันแดด + เมกอัพเบส + รองพื้น + สารควบคุมสีผิว
ซึ่ง CC Cream ถือว่าตอบโจทย์ของสาวไทยที่มีหลากหลายเฉดสีผิวได้อย่างชัดเจนเพราะการใช้ BB Cream ที่มีส่วนผสมของขั้นตอนดูแลผิวและปกปิดผิวหลายๆ อย่างที่เราไม่สามารถกำหนดสัดส่วนของแต่ละอย่างได้เองซึ่งสัดส่วนของส่วนผสมที่อาจจะไม่พอดีเป๊ะกับสภาพผิวของสาวไทยบ้านเราจึงเป็นที่มาของปัญหาที่ว่า หลังจากทา BB Cream ไปแล้ว สีผิวเปลี่ยนไป ไม่ใกล้เคียงกับสีผิวจริงและบางคนเกิดอาการผิวหมองคล้ำระหว่างวัน หรือที่หลายๆ คนเรียกกันว่า หน้าสีเทา
ผู้ที่เหมาะสำหรับการเลือกใช้ CC Cream ได้แก่
1. ผู้ที่ต้องการดูแลผิวในวันที่ต้องเร่งรีบ ทั้งให้ความชุ่มชื้น และการปกป้องผิวจากแสงแดดเพราะมีส่วนผสมของครีมบำรุงผิวและครีมกันแดด ซึ่งบางชนิดเพิ่มการดูแลผิวแบบพิเศษลงไปด้วยเช่น การลดการอักเสบของสิว การทำให้ผิวสว่างขึ้น การลดริ้วรอยจางๆ
2. ผู้ที่ต้องการปกปิดจุดบกพร่องต่างๆ บนผิว ในระดับบางเบาทั้ง รอยแผลเป็นจากสิว รอยกระ รอยฝ้า และรอยด่างดำ ดูจางลงเพราะมีส่วนผสมของครีมรองพื้นที่ช่วยในเรื่องการปกปิดผิวและจุดบกพร่องของผิว
3. ผู้ที่ต้องการปรับสีผิวให้ใบหน้ากระจ่างใส เพราะมีส่วนผสมของเมกอัพเบส ที่มักจะช่วยปรับสีผิวให้สว่างขึ้น
4. ผู้ที่ต้องการให้เมกอัพติดทนได้ดีขึ้น (ในกรณีที่ไม่ใช้เมกอัพเบส) เพราะมีส่วนผสมของเมกอัพเบสซึ่งบางประเภทก็ส่วนผสมที่ช่วยควบคุมความมันให้กับผิวหน้าได้ด้วย
5. ผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้าให้ดูนวลเนียน กระจ่างใส และดูเป็นธรรมชาติ กลมกลืนกับสีผิวจริง
ลูกค้าใหม่หรือซื้อกับทางร้านไปนานรบกวนทักเข้ามาทาง Inbox นะจ๊ะ
สั่งซื้อทางนี้ด้วยการกดปุ่ม
"Add Friend" ค่ะ
